ฟูก หรือ ที่นอน นั้น คือ เครื่องเรือนอีกชนิดหนึ่งซึ่งทำหน้าที่รองรับสรีระของร่างกายในยามนอนนั่นเองน่ะนะคะ ปัจจุบันนี้ที่อนในท้องตลาดมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบด้วยกันค่ะ อาทิเช่น ที่นอนนุ่น,ที่นอนยางพารา,ที่นอนใยมะพร้าว,ที่นอนฟองน้ำ,ที่นอนสปริง เป็นต้น ซึ่งที่นอนแต่ละประเภทก็มีจุดดี-จุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่คุณลักษณะของวัสดุที่นำมาใช้ทำ
ปกติแล้ว การแบ่งขนาดของที่นอนที่ถูกต้องจะประกอบไปด้วย กว้าง x ยาว x สูงค่ะ โดยมีหน่วยนับเป็นฟุต และ นิ้ว โดยมีขนาดแตกต่างกันไปตามแต่สรีระของคนในแต่ละประเทศ สำหรับประเทศไทยเรานั้น แบ่งขนาดของที่นอนออกได้เป็น 3 ขนาดดังนี้น่ะนะคะ
- ที่นอนขนาด 6 ฟุต หรือ ที่นอน King size เป็นที่นอนขนาดใหญ่ กว้าง 6 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต เหมาะสำหรับนอน 2 คนขึ้นไป และเหมาะสำหรับตั้งในห้องขนาดใหญ่พอสมควร
- ที่นอนขนาด 5 ฟุต หรือ ที่นอน Queen size เป็นที่นอนขนาดกว้าง 5 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต เหมาะสำหรับนอน 1-2 คน เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด แต่จำเป็นหรือต้องการใช้ที่นอนขนาดกลาง
- ที่นอนขนาด 3.5 ฟุต ที่อน Twin size หรือ Singer size ที่นอนประเภทนี้มีความกว้าง 3.5 ฟุต ยาว 6.5 ฟุตค่ะ เหมาะสำหรับการนอนเพียงคนเดียว
ข้อแนะนำสำหรับการเลือกซื้อที่นอนนั้น ก่อนอื่นก็ต้องคำนึงถึงสภาพร่างกายของผู้นอนค่ะ ว่าเป็นผู้ที่มีสรีระเช่นไร ต้องการที่นอนที่มีคุณสมบัติพิเศษอย่างไรบ้าง เช่น บางท่านอาจมีน้ำหนักตัวที่มาก อาจต้องใช้ที่นอนที่รับน้ำหนักได้มากกว่าปกติ ก่อนซื้อต้องพิจารณาคุณสมบัติของที่นอน ว่าต้องไม่เสียรูปทรงจากการกดทับนาน ๆ เราลองมาพิจาณาถึงคุณสมบัติเด่นและด้อยของที่นอนแต่ละประเภทกันนะคะ
ที่นอนยางพารา ที่นอนประเภทนี้ มีความยืดหยุ่นที่ดีค่ะ นุ่ม คงสภาพได้ดี อายุการใช้งานนาน ไม่เก็บความชื้นและฝุ่น แต่ก็มีข้อด้อยตรงที่มีราคาที่สูง และน้ำหนักที่มากน่ะนะคะ
ที่นอนใยมะพร้าว ที่นอนประเภทนี้ค่อนข้างแข็ง แม้ไม่นุ่มเท่ายางพาราแต่ก็คงสภาพได้ดีพอสมควร นอกจากนี้ยังเป็นที่นอนที่ระบายอากาศได้ดี โปร่ง ไม่สะสมความชื้น แต่ก็มีข้อเสียตรงที่มีน้ำหนักมากเช่นกัน
ที่นอนฟองน้ำ ที่นอนประเภทนี้ ค่อนข้างจะนุ่มกว่าที่นอนประเภทอื่นค่ะ แต่เนื่องจากความนุ่มของมันนี่เองที่ทำให้คงสภาพไม่ได้นาน และเมื่อนอนไปนาน ๆ ก็จะทำให้เกิดอาการปวดหลังได้
ที่นอนสปริง จุดเด่นของที่นอนสปริง ก็คือการมีความยืดหยุ่นสูงค่ะ ยิ่งมีจำนวนสปริงมากเท่าใด ก็จะยิ่งรองรับสรีระโค้งเว้าของร่างกายผู้นอนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้วก็ยังเป็นที่นอนที่คงสภาพได้ดี แม้ว่าอาจเกิดเสียงดังได้เมื่อใช้ไปนาน ๆ แต่ก็เป็นที่นอนที่ไม่สะสมความชื้น รวมถึงระบายอากาศได้ดี ข้อเสียของที่นอนประเภทนี้ก็คือ น้ำหนักมาก และราคาก็มักจะแตกต่างกันไปตามคุณภาพและวัสดุที่นำมาทำน่ะนะคะ
สุดท้ายก็คือ ที่นอนผสม ค่ะ ที่นอนผสม เป็นการนำเอาวัสดุแต่ละชนิดข้างต้นมาผสมผสานกัน เช่น รวมคุณสมบัติที่ดีของที่นอนใยมะพร้าวและที่นอนยางพารา ซึ่งคุณสมบัติของที่นอนที่ได้จากที่นอนทั้งสองประเภท ก็จะได้ทั้งความนุ่ม ความยืดหยุ่นสูงและคงทน
ข้อแนะนำประการสุดท้ายก่อนตัดสินใจซื้อที่นอนประเภทใดนั้น ก็คือควรทดลองนอนบนที่นอน โดยไม่ใส่รองเท้า ในท่านอนปกติ อย่างน้อยสัก 10 นาทีน่ะนะคะ เพื่อดูว่านอนได้สบายหรือไม่ และควรเปรียบเทียบการนอนที่นอนแต่ละประเภทก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้รู้ถึงความแตกต่างของที่นอนแต่ละประเภท และเพื่อให้เราสามารถเลือกใช้ที่นอนที่เหมาะสมและถูกใจมากที่สุดนั่นเองน่ะนะคะ
เรียบเรียงข้อมูลจาก homepro.co.th/suchart/images/Solutions/002/2.1.html
ภาพประกอบจาก อินเตอรืเน็ต
